Malaysia

Day  9-10 : Melaka ep.1

Day 9-10 (14-15 Jul) Melaka

วันนี้แอดจะไปมะละกาค่ะ

แอดขอเล่าประวัติศาสตร์ของเมืองหน่อยนะคะ

เมืองมะละกาเป็นเมืองท่าที่สำคัญในประวัติศาสตร์บริเวณคาบสมุทรมลายู ตั้งอยู่ที่บริเวณ ช่องแคบมะละกา  นั่นเองค่ะ

มีตำนานเล่าขาลกันมาว่า ในอดีตกษัตริย์ ปรเมศวร  เป็นกษัตริย์ที่นับถือศาสนาฮินดูจากเกาะชวา  กษัตริย์ได้ประพาสการล่าสัตว์ในแถบนี้  และได้มีการพักเหนื่อยที่ใต้ต้นมะละกา ซึ่งสถานที่นี้ใกล้กับแม่น้ำมะละกาในปัจจุบันค่ะ ในขณะนั้นอยู่ดีๆมีกวางวิ่งออกมากะทันหัน หมาไล่เนื้อเลยตกใจ ทำให้หมาตกลงน้ำไปเลย ถถถ น้องน่าสงสาร  (สมัยก่อนจะใช้หมาไล่เนื้อ ในดมกลิ่นและใช้ในการต้อนสัตว์)  กษัตริย์เป็นเห็นว่า เป็นนิมิตหมายอันดี ที่ความเข็มแข็งก็สามารถพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนแอได้  จึงได้ตัดสินใจตั้งเมืองที่นี่ 

แต่อีกกระแสหนึ่งก็กล่าวไว้ว่า “มะละกา”มาจากคำในภาษาอาหรับMalakat ที่แปลว่า “ตลาด”  เนี่ยะแหละ

ในปี พ.ศ.2054 เมืองมะละกานั้น ได้เข้าสู่ยุคล่าอาณานิคมโดยตัวเมืองเริ่มตกเป็นของโปรตุเกสก่อน

หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2194  ดัตช์  ได้บุกมาโจมตีและยึดเมืองได้สำเร็จแทนที่โปรตุเกส

จนกระทั้ง ปี พ.ศ. 2338  ได้เกิดสงครามนโปเลียนขึ้น  ขณะนั้นเอง  ดัตช์เลยตัดสินใจ มอบมะละกาให้กับอังกฤษเพื่อหวังให้เป็นกันชนกับฝรั่งเศส  และต่อมามีการส่งกลับคืนและได้นำมาแลกกับ “บังกาลูลู” ในเกาะสุมาตรา

ดังนั้นตั้งแต่ ปี พ.ศ.2469   บริษัทอิสต์อินเดียของอังกฤษจึงได้เข้าปกครองตลอดฝั่งตะวันตกของมาลายา ซึ่งมีบริเวณตั้งแต่ เกาะสิงคโปร์ยาวไปจนถึงเกาะปีนัง

             จากประวัติศาสตร์ต่างๆนั้น  พบว่าย่านนี้คือแหล่งศูนย์รวมของอาคารจากยุคสมัยอาณานิคมต่างๆ เลยก็ว่าได้ ปัจจุบันเมืองนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างมาก จนถูกเลือกขึ้นเป็น ‘เมืองมรดกโลก’ (World Heritage Site) จากองค์การยูเนสโกใน ปี ค.ศ. 2008 ต่อมา

สามารถอ่านละเอียดประวัติศาสตร์ แบบเต็มๆได้ที่  https://lek-prapai.org/home/view.php?id=341

จบเรื่องเล่าประวัติแล้ว มาเที่ยวต่อกันเลยค่ะ

เช้าวันนี้แอดจะย้ายไปนอนที่มะละกาเลยค่ะ  แอดไปซื้อตั๋วรถบัสที่สถานีนะคะ เนื่องจากมีให้เลือกหลากหลายบริษัทรถทัวร์ค่ะ แล้วแต่เวลาที่จะเดินทางด้วยค่ะ

สามารถจอง  online ได้นะคะ มีหลายบริษัทให้เลือกค่ะ

แอดแนะนำว่าขาไป อาจจะไปเลือกดูที่สถานีได้ ค่ะ แต่ขากลับโดยเฉพาะวันเสาร์หรืออาทิตย์  เพื่อนคนจีน-มาเลย์แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าค่ะ เพราะคนจองกลับกันเยอะมาก ตั๋วอาจจะหมดได้ค่ะ

https://www.busonlineticket.com/booking/kuala-lumpur-to-malacca-bus-tickets

หลังจากแอด check out จากโรงแรม  หลังจากนั้นเรียก GRAB ไปที่ KL SETRAL  ไปต่อรถไฟฟ้า  KTM สายสีแดง ลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเบอร์เซอปาดูเซอลาตัน (Terminal Bersepadu Selatan, TBS) เป็นสถานีขนส่งหลัก ของทางตอนใต้ของกัวลาลัมเปอร์ค่ะ  คล้ายๆกับหมอชิตบ้านเราค่ะ แต่รถบัสบ้านเค้าสภาพดี เบาะนุ่ม เบาะใหญ่ นั่งสบายและสะอาด แอดนั่งรอที่สถานีที่ประตูทางออก 12 ค่ะ พอได้เวลาก็สแกนบัตร เพื่อเปิดที่กัน (ตามรูปค่ะ อารมณ์ประมาณ ประตูที่กั้นรถไฟฟ้าบ้านเราค่ะ)  แล้วเดินขึ้นไปนั่งตามเลขที่ของที่นั่ง  ตามที่ได้เลือกซื้อเลยค่ะ นั่งไปประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึงสถานีขนส่ง Melaka Sentral ค่ะ

Station
Station
Bus
BUS

หลังจากนั้นขึ้น Bus เบอร์ 17 (ZT17) เพื่อเข้าตัวเมือง มะละกากันค่ะ

 

 

 

วันนี้แอดเลือกพักที่ Styles Hotel Melaka ค่ะ ตอนที่ แอดไปเป็นโรงแรมเปิดใหม่นะคะ สังเกตง่ายๆจะอยู่ตรงข้ามร้านHM ค่ะ

https://goo.gl/maps/q5BCB1PT1fLV8UUt8

โรงแรมนี้ใกล้ถนนคนเดินช่วงเย็น และใกล้ร้านอาหารดังๆค่ะ ง่ายต่อการเที่ยวค่ะ

พอเก็บของ พักผ่อนสักพัก ก็ออกมาทานอาหารกลางวันกันค่ะ

ตอนแรกแอดกะว่าจะไปทานข้าวมันไก่ปั้นกลมๆ ที่ร้าน -Kedai kopi Chung Wah เป็นร้าน ชื่อดังอยู่แถวๆโรงแรมค่ะ   แต่ปรากฏว่า  ร้านนี้คิวแน่นคนเยอะค่ะ  คิวยาวมาก แอดเลยเปลี่ยนใจไปร้านคิวสั้นกว่า แอดไปกินที่ร้าน  Famosa Chicken Rice Ball

รสชาติแอดก็ว่าอร่อยอยู่ค่ะ แต่ไม่มากเท่าไร ถ้าเทียบกับไก่ที่ IPOH ที่ IPOH แอดว่าชนะเลิศค่ะ

ป้ายร้านที่โฆษณา ใน FBร้านค่ะ

มาดูอาหารจริงๆ และดูร้านจริงๆกันเลยค่ะ

หลังจากอิ่มแล้ว แอดก็เดินเล่นไปทั่วเมืองค่ะ

แผนที่ค่ะ  แอดได้มาจากโรงแรมที่พักค่ะ

 

แอดไปเขตเมืองเก่าก่อนนะคะ ที่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ค่ะ

จากโรงแรม Styles Hotel Melaka แอดก็เดินข้าม Tan Kim Seng Bridge มาค่ะ

Bridge

ตรงสะพานจะมีเครนประวัติศาสตร์์ด้วยนะคะ หน้าตาแบบนี้ค่ะ

อดเดินเลาะทางริมแม่น้ำ Sungai Melaka มาแล้วก็เจอกับ

Bastion Middleburg เป็นป้อมปราการสมัยศตวรรษที่ 17

https://goo.gl/maps/5pic8bgyG2NEbCs28

ป้อมปราการนี้จะหันหน้าสู่แม่น้ำ Sungai Melaka ซึ่งเป็นแม่น้ำใจกลางเมืองค่ะ ใกล้กับจัตุรัสดัตช์ ป้อมปราการนี้ยาวประมาณ 1.5 กม. อยู่ล้อมรอบบริเวณศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของมะละกา

อย่างไรก็ตามป้อมปราการนี้โดนทำลายลงเกือบทั้งหมดในปี 1807 โดยกองกำลังอังกฤษที่บุกรุกมา

 ในปัจจุบันนี้  โครงสร้างเหล่านี้ได้สร้างขึ้นใหม่โดยอ้างอิงจากเอกสารทางประวัติศาสตร์และงานขุดของกำแพงเดิม

ป้อมปราการนี้ ติดปืนใหญ่โชว์ ด้วยนะคะ  มาดูกันเลยค่ะ

ต่อมาก็จะเจอ Melaka Sultanate Watermill  https://goo.gl/maps/HbWRupxi8mv7UNHG8

ตอนกลางคือจะมีเปิดไฟเป็นสีสันสวยงามค่ะ แอดไปแต่ตอนกลางวันนะคะ แดดแรงมากค่ะ

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เดินเรียบแม่น้ำมาเรื่อยๆจะเจอกับเรือสำเภาจำลองขนาดใหญ่มากค่ะ เรือลำนี้จะตั้งอยู่บนพื้นดินเลียบแม่น้ำมะละกา ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ทางทะเล (Maritime Museum)

https://goo.gl/maps/cKZcJtNuzk8kdPgZ7

มาดูกันค่ะว่าในเรือมีอะไรให้ดูบ้าง  ใหญ่มาก ใหญ่มากค่ะ มองเห็นแต่ไกล

เดินเล่นแถบบริเวณนี้หมดแล้ว ก็เดินกลับไปยัง  บริเวณจัตุรัสดัชท์กันค่ะ

ตรงกลางจัสตุรัสมีน้ำพุควีนวิกตอเรีย (Queen Victoria’s Fountain) ซึ่งได้สร้างขึ้นในสมัยอาณานิคมของอังกฤษ

Queen Victoria’s Fountain

ใกล้ๆกันจะพบหอนาฬิกาประจำเมือง (Tan Beng Swee Clock Tower) สร้างโดยชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองเอง

Tan Beng Swee Clock Tower

 

โบสถ์ คริสต์ เมืองมะละกา Christ Church Melaka ก็อยู่ระแวกนี้ค่ะ

โบสถ์ถูกสร้างขึ้นโดยชุมชนชาวดัตช์ ระหว่างปีค.ศ. 1641 ถึง 1838  ตัวโบสถ์จะเป็นสถาปัตยกรรมดัตช์  ด้านภายในโบสถ์มีม้านั่งไม้ยาวที่อายุมากกว่า 200 ปีและโคมไฟบางชิ้นที่เก่าแก่มาก อีกด้วยค่ะ แต่ก่อนนั้น ตัวโบสถ์เป็นสีขาวนะคะ ต่อมาในปี ค.ศ. 1911 ถูทาสีแดงเพิ่มเข้าไปค่ะ แอดไม่ได้เดินไปดูด้านในนะคะ คนเยอะมากค่ะ ตรงนี้เป็นจุดศูนย์กลางท่องเที่ยวช่วงกลางวันเลยค่ะ 

ในรูปจะเห็นสามล้อ ตกแต่งด้วยตุ๊กตาน่ารัก เต็มรถเป็นจุดขายของที่นี่ด้วยเช่นกันค่ะ นักท่องเที่ยวชอบ

หลังจากนั้นแอดก็เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ ตามมาค่ะ

มาทางนี้ค่ะ แดงๆ ตามมาเลยค่ะ

ก็จะเจอ   โบสถ์เซนต์ ฟรานซิส เซเวียร์ (Church of St. Francis Xanvier) ค่ะ เป็นโบสถ์คาทอลิกที่หันหน้าเข้าแม่น้ำมะละกา สร้างขึ้นระหว่างปี 1849  ถึง 1856

เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 09:00 น. – 17:00 น. และเข้าชมฟรีนะคะ แต่แอดไปถึงตอนโบสถ์ปิดค่ะ คือไปหลัง 5 โมง เลยไม่ได้เข้าไปนะคะ

ตรงกันข้ามโบสถ์นี้ ทางริมแม่น้ำจะพบกับ Bastion Victoria ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ค่ะ คาดว่าเป็นป้อมปราการขนาดเล็ก  ค่ะ

ป้าย World Heritage Site  ก็อยู่ตรงนี้นะคะ

หลังจากนั้นแอดก็มุ่งหน้าเดินกลับโรงแรมค่ะ  ตัวโรงแรมแอดตั้งอยู่บริเวณที่เป็นเมืองย่านการค้าค่ะ หรือเป็นย่าน  ‘ไชน่าทาวน์’ มีอาคารทรงชิโน-โปรตุกีส เยอะมากค่ะ  ถนนคนเดินตอนกลางคืนจะอยู่ที่ Jalan Hang Jebat หรือ  Jonker Street นะคะ

แอดยังว่างค่ะ เดินเล่นกันค่ะ

ไปต่อกันค่ะ Day  9-10 : Melaka ep.2

ย้อนกลับไปก่อนหน้า Day 8: Kuala Lumpur

ไปหัวข้อหลัก SIPADAN/MABUL-KUL-MELAKA Trip : 10D9N

สำหรับเรื่องราวประวัติศสตร์ของมะละกาสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://malaysialife.org

Please follow and like us:
Social Share Buttons and Icons powered by Ultimatelysocial